5 นิทานแนะนำที่ช่วยเสริมพัฒนาการลูกน้อย




หากพูดถึงช่วงเวลาของวัยเด็ก สิ่งแรก ๆ ที่คุณพ่อ คุณแม่ ต่างก็อยากให้เด็ก ๆ เติบโตขึ้นมาเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ ประสบความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่เด็กคนหนึ่งจะเจริญเติบโตขึ้นมาเป็น คนดี คนเก่ง ได้นั้น ยังมีสิ่งสำคัญอีกหลายอย่างที่หลายบ้านอาจหลงลืมไปบางสิ่งที่ครอบครัวหลายๆครอบครัวทำหล่นหายไปนั่นก็คือ 

“การอ่านนิทานให้เด็กๆฟัง”

เพียงแค่คุณพ่อ คุณแม่หยิบหนังสือนิทานขึ้นมา เล่า อ่าน เปล่งเสียง ให้ลูกน้อยฟัง หรือหยิบหนังสือภาพมาให้เด็กดูตามก็จะเกิดผลดีมากมายอย่างที่คาดไม่ถึง แถมยังไม่ต้องรอให้เด็กรู้ภาษาก็สามารถทำได้เลย เรียกได้ว่า ทำได้ตั้งแต่เด็กอยู่ในครรภ์คุณแม่กันเลยทีเดียว 

'การอ่านนิทานให้ลูกฟัง' เป็นช่วงเวลาทองที่ควรค่าแก่การปลูกฝังในทุก ๆ ครอบครัว เพราะในช่วงปฐมวัยเป็นวัยแห่งการเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นช่วงที่มนุษย์เรามีความสามารถในการพัฒนาสมองและทักษะทุกด้านกว่า 80% ของชีวิต (สสส.)


CR : Amarin

ประโยชน์ของนิทาน วัยเด็กเป็นวัยที่มีจินตนาการสูง เด็กๆทุกคนจึงชื่นชอบการฟังนิทาน นิทานจะทำให้เด็กนิ่งมีใจจดจ่อกับการฟังเรื่องราวอันแสนสนุกสนานและตื่นเต้น นิทานถือเป็นสื่อที่ดีที่สุด เกิดประโยชน์ต่อพัฒนาการของเด็กอย่างมหาศาล ความจริงแล้วคุณพ่อ คุณแม่จะเลือกอ่านให้เด็กฟังในช่วงเวลาไหน ตอนไหนก็ได้ หรือจะอ่านนิทานก่อนนอน ใช้เวลาส่งลูกเข้านอนหากิจกรรมทำร่วมกัน ถือเป็นเวลาคุณภาพ (Quality Time) ในช่วง 20.30 น. ไม่เกิน 21.00 น. ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที 




หากทำติดต่อกันทุกวันเป็นระยะเวลา 3 ปี จะเกิดประโยชน์มากมาย ทั้งเด็กมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว เฉลียวฉลาด รักการอ่าน เป็นเด็กดี เชื่อฟัง ที่สำคัญเป็นการกระตุ้นพัฒนาการของสมองส่วนหน้า และเป็นเหมือนข้อบังคับของบ้านว่าไม่ว่าผู้ปกครองจะทำงานหรือมีกิจกรรมอะไร อย่างน้อยในหนึ่งวันจะต้องส่งลูกเข้านอนและมีเวลาคุณภาพร่วมกัน (นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์)

1. เส้นทางมิตรภาพของลูกหมาป่า The Way Home For Wolf



นิทานจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพและการอยู่รวมกันในสังคม เป็นเรื่องของเจ้าลูกสุนัขป่าตัวน้อยที่มีความหยิ่งทะนงชอบทำอะไรด้วยตนเอง ทำตนเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งรอบตัว จนอาจหาญจะนำฝูงหมาป่าฝ่าหิมะหนาว แต่ในที่สุดก็ต้องหลุดจากฝูง และหลงทางเนื่องจากความหยิ่งทะนงที่ไม่ยอมร้องขอความช่วยเหลือ ระหว่างที่หาทางกลับบ้านนั้นเองเขาก็ได้พบกับสัตว์ต่างๆ ที่เวียนเข้ามาช่วยเขาระหว่างทางมาเรื่อยๆ จนเขาสามารถกลับถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย จึงได้เขาได้เข้าใจความสำคัญและข้อดีของการมีมิตรภาพ




2. น้องหมีเล่นกับพ่อ





เรื่องราวน่ารักของน้องหมีกับคุณพ่อหมี มีภาพประกอบสวยงามเข้าใจง่าย ไม่สลับซับซ้อน ของเล่นที่ดีที่สุดคือพ่อ มือเปล่า เท้าเปล่า ตัวเป็นๆของพ่อ เล่นอะไรได้บ้าง เหนื่อยนักพักนอน ตื่นมาเล่นต่อ ไม่ต้องซื้อต้องหา ไม่ต้องออกไปไหน “สายสัมพันธ์” คือรากฐาน




3. หนูจิ๋วหัวใจสิงโต The Lion Inside



หนูตัวเล็กจิ๋วในบ้านหลังเล็ก เล็กมากเสียจนไม่มีใครมองเห็นเขา เสียงของเขาเบามากเสียจนไม่มีใครได้ยินเสียงของเขา เขาเจียมเนื้อเจียมตัวมากจนถูกเหยียบ นั่งทับและหลงลืม เขาพบว่าราชสีห์ตัวใหญ่บนก้อนหินสูงไม่เหมือนกับเขา ราชสีห์ตัวใหญ่บนก้อนหินสูงเด่นสง่ามากเสียจนใครๆก็ต้องเห็น เสียงคำรามของเขาดังสนั่นจนใครๆต้องได้ยิน เขาแสดงออกและโชว์อ๊อฟพลังมหาศาลอยู่เสมอ ราชสีห์ไม่เล็ก ไม่เงียบ และไม่ถ่อมตัว หนูจิ๋วอยากเป็นเหมือนราชสีห์ เขาไม่อยู่เฉยแต่กำหนดเป้าหมาย เป้าหมายคือคำรามให้ดังเท่าราชสีห์





4. กระรอกอ้วน



กระรอกอ้วนตัวหนึ่งที่ดื้อ ซน ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของแม่ แม่พาพี่ออกสำรวจป่า กระรอกอ้วนเห็นตัวเขียวผ่านหน้าไป จึงว่อกแว่กวิ่งตามไปในทันที แต่เจ้าตัวเขียวหายไปแล้ว หันมาแม่และพี่ๆก็หายไปด้วย จนทำให้มันหลงทาง และจำทางกลับบ้านไม่ได้ แต่แล้วในที่สุด แม้ว่ามันจะเป็นกระรอกที่ดื้อเพียงใด แม่ของมันก็ไม่ทิ้งเพราะมันเป็นลูกของแม่ 

5. แม็กซ์ ผู้กล้าหาญ



เรื่องราวของลูกแมวผู้กล้าหาญและใจเด็ด ที่มีชื่อว่า “แม็กซ์” กับการปฏิบัติภารกิจจับหนู ทั้งๆที่แม็กซ์ไม่เคยเห็นหนูมาก่อน และไม่ทราบว่าหนูมีหน้าตาและรูปร่างอย่างไร จึงต้องใช้เวลาตามหาหนูอยู่นานสักหน่อย เรามาชวนเด็ก ๆ เอาใจช่วยแม็กซ์กันว่าจะตามหาหนูเจอหรือไม่ 





ขอขอบคุณข้อมูล : นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

ไม่มีความคิดเห็น