จังหวัดเชียงใหม่จัดพิธีเนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวงน้อมรำลึกร9


จังหวัดเชียงใหม่ จัดพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายราชสักการะน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง


ที่จังหวัดเชียงใหม่นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำข้าราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา อาสาสมัครฝนหลวง ประกอบพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด เพื่อถวายราชสักการะน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่พระเกียรติคุณ พระมหากรุณาธิคุณ แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผ่านนิทรรศการที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดขึ้น เพื่อให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา รับรู้ในพระกรณียกิจที่พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกาย เพื่อสร้างคุณประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ต่อประชาชนในโครงการฝนหลวง


โดยในปีนี้ครบรอบปีที่ 64 แห่งการกำเนิดฝนหลวงพระราชทาน นับแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริที่จะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ มาประยุกต์ใช้ในการบังคับเมฆให้เกิดเป็นฝน จนเกิดเป็นเทคโนโลยีฝนหลวง ที่ขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากให้แก่พสกนิกรของพระองค์ที่ประสบภัยแล้ง และเป็นองค์ประกอบในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ จวบจนปัจจุบัน 




และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2545 เฉลิมพระเกียรติพระองค์ ในฐานะทรงเป็น "พระบิดาแห่งฝนหลวง" และกำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็น "วันพระบิดาแห่งฝนหลวง" เพื่อร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้ และจารึกไว้เป็นวันสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย




สำหรับโครงการพระราชดำริ "ฝนหลวง" ได้สร้างคุณูปการทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะความมั่นคงด้านน้ำให้แก่ประเทศไทย และด้วยพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้ทรงคิดค้นเทคโนโลยีฝนหลวงขึ้น ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งได้มีการจดสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธยทั้งในประเทศและต่างประเทศ และหลายประเทศได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการนำเทคนิคและวิธีการทำฝนหลวง ตามตำราฝนหลวงพระราชทานไปปรับใช้แก้ปัญหาความแห้งแล้งในประเทศของตนเอง ซึ่งถือได้ว่าโครงการพระราชดำริฝนหลวง นับเป็นนวัตกรรมที่เกิดจากพระอัจฉริยภาพอย่างแท้จริง และเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและคนทั่วโลก

ไม่มีความคิดเห็น