ตำรวจภาค5ตามรวบหนุ่มแอบปลอมเฟซบุ้คหลอกเด็กสาวโชว์ภาพหวิว


ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 โดยทางพลตำรวจโทประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 ร่วมกันแถลงข่าวคดีปลอมเฟสบุ๊คล่อลวงเด็กสาวโชว์ภาพหวิวแล้วนำภาพไปเผยแพร่ต่อซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาคือนายฤทธิเดช ลีศิริขุนกลาง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง เป็นโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่องและคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง โดยทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ที่หอพักนฤมลคอร์ด ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย

จากการจับกุมผู้ต้องหาได้ในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองเด็กหญิงจำนวน 3 รายว่ามีการปลอมแปลงเฟซบุ๊คเพื่อหลอกลวงให้เด็กหญิงผู้เสียหายส่งภาพอนาจารไปให้ และได้มีการข่มขู่ให้ส่งคลิปโป๊ โดยหากไม่ทำตามก็จะมีการนำภาพอนาจารที่ส่งให้ก่อนหน้านี้ไปเผยแพร่ทำให้เด็กเกิดความกลัวและยอมถ่ายคลิปส่งไปให้คนร้ายซึ่งภายหลังทางผู้เสียหายได้มีการแจ้งผู้ปกครองจึงได้มีการเข้าร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ดังกล่าว  โดยภายหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามจนมีหลักฐานว่าผู้ก่อเหตุดังกล่าวคือนายฤทธิเดช ลีศิริขุนกลาง จึงได้ทำการตรวจค้นหอพักที่นายฤทธิเดช อาศัยอยู่ซึ่งจากการตรวจค้นหาเจ้าหน้าที่พบของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ซึ่งภายในมีภาพและคลิปของผู้ชายหายอยู่รวมถึงบทสนทนาทั้งหมดทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายฤทธิเดช มาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อทำการขยายผลหาผู้ร่วมกระทำการดังกล่าวนี้ด้วย


ขณะที่ทางด้านพลตำรวจโทประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้หลอกเหยื่อมาแล้วประมาณ 20 ราย โดยเป็นเด็กทั้งหมดที่เขามาแจ้งความแล้ว 3 ราย จึงอยากแจ้งว่าผู้ที่ตกเหยื่อหลอกในลักษณะเช่นนี้ ก็ขอให้ไปร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเพื่อให้ได้รับโทษเพิ่มมากขึ้น และอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับกากระทำลักษณะแบบนี้ทางโซเชียลเป็นสิ่งสำคัญที่เราอาจไม่ทราบตัวตนที่แท้จริงของเขาซึ่งเขาจะมีวิธีการหลอกล่อเหยื่อให้หลงกลเขาหรือ โดยทางหากในเรื่องของเด็กก็จะกี่ยวกับเรื่องของทางเพศและถ้าหากไปกระทำกับผู้ใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของการโอนทรัพย์สินเหมือนที่เราเคยเจอเกี่ยวกับคดีโรแมนสแกมต่างๆ จึงอยากให้ระวังภัยที่มาจากทางโลกโซเชียลซึ่งต้องระมัดระวังในการพูดคุยกับคนที่ไม่รู้จักหรือคนที่เราไม่รู้จักตัวตนจริงๆ ก็ขอให้ระมัดระวังและหากพบเห็นก็ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ


ทั้งนี้จากการสอบสวนในเบื้องต้นทางผู้ต้องหาไม่ยอมรับว่า ตนได้ใช้กลอุบายหลอกลวงทั้งหมดจำนวนกว่า 20 ราย โดยมีการข่มขืนผู้เสียหายส่งภาพและคลิปโป๊มาให้ตน ซึ่งตนได้เอาไว้ดูและสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง โดยหลังจากที่ได้มีการตอบรับคำเชิญทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองและผู้อื่น นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนและขยายผล ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าพฤติกรรมดังกล่าว อาจจะเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติค้ามนุษย์ และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าหากพบหลักฐานการกระทำความผิด ก็จะได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น