มาดูกิจกรรมสุดเลอะ ของเด็กๆนักเรียน มาเรียนรู้วิถีชาวนา และแข่งขันจับปลา




เด็กๆนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ จำนวน 92 คน สวมใส่ชุดหม้อฮอมต่างจดจ้องด้วยความตื่นเต้นกับการแข่งขันจับปลาในทุ่งนาซึ่งเป็นกิจกรรมสันทนาการที่ทางโรงเรียนได้ร่วมกับอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าจัดกิจกรรมปลูกข้าวเรียนรู้วิถีชาวนาไทย 

  

โดยกิจกรรมแรกจะให้เด็กๆนักเรียนได้เรียนรู้ถึงการทำนาด้วยการปลูกข้าว ดำนา จับปลาช่อน ที่แปลงนาสาธิตโดยรอบส่วนจัดแสดงหุ่นฟางคิงคอง ภายในอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าอันเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งนี้


ส่วนกิจกรรมต่อมาจะเป็นกิจกรรมการแข่งขันจับปลาในทุ่งนา ซึ่งเป็นกิจกรรมเด็กๆนักเรียนต่างรอคอย เพราะเด็กๆหลายคนยังไม่เคยได้มีโอกาสเหยียบลงในทุ่งนาและจับปลาเป็นๆและเมื่อถึงเวลาการแข่งขันจับปลาก็จะมีการแบ่งประเภทชาย หญิง โดยจะให้น้องๆผู้หญิงเป็นผู้แข่งขันก่อน




จากนั้นทางกรรมการก็จะปล่อยปลาแต่ละชนิดลงไปโดยตอนแรกจะปล่อยปลาช่อน และตามด้วยปลาไหล หลังจากที่ปล่อยปลาลงไปในทุ่งนาความโกลาหลก็เริ่มเกิดขึ้นทั้งเสียงหัวเราะและความเปรอะเปื้อนของโคลนซึ่งก็สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับนักท่องเที่ยวรวมถึงผู้ปกครองที่มารอชมการแข่งขัน 



จากนั้นทางกรรมการก็จะปล่อยปลาแต่ละชนิดลงไปโดยตอนแรกจะปล่อยปลาช่อน และตามด้วยปลาไหล หลังจากที่ปล่อยปลาลงไปในทุ่งนาความโกลาหลก็เริ่มเกิดขึ้นทั้งเสียงหัวเราะและความเปรอะเปื้อนของโคลนซึ่งก็สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับนักท่องเที่ยวรวมถึงผู้ปกครองที่มารอชมการแข่งขัน 



ขณะที่น้องๆนักเรียนหญิงต่างก็ตั้งอกตั้งใจจะจับปลาให้ได้เพราะทางผู้จัดการสำนักงานโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้เตรียมรางวัลไว้ให้กับน้องที่สามารถจับปลาได้ตัวละ 200 บาท ช่วยกระตุ้นให้น้องนักเรียนจับปลาให้ได้แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานนักเรียนหญิงยังจับปลาไม่ได้ซักตัว



จึงได้ให้นักเรียนชายเข้าร่วมแข่งขันด้วยทีนี้ความวุ่นวายยิ่งไปกันใหญ่ยิ่งขึ้นบางคนก็ตั้งหน้าตั้งตาเพื่อจับปลาให้ได้บางคนไม่สนใจจับปลาพุ่งเล่นในโคลนอย่างเดียวเนื้อตัวมอมแมมไปกันหมดทั้งนักเรียนหญิงนักเรียนชาย สุดท้ายก็เป็นนักเรียนชายที่สามารถจับปลาได้มากที่สุด



ทั้งนี้ทางด้านพ.อ.สุปกรณ์ เรือนสติ ผู้จัดการสำนักงานโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า โครงการที่จัดขึ้นในวันนี้เป็นการจัดต่อเนื่องครั้งที่ 3 แล้ว เป็นการปลูกข้าวนาปี แต่เป็นการปลูกช่วงหัวปี ส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน รวมถึงคณะครู ได้เรียนรู้วิถีชีวิต วิถีไทย ดำรงอนุรักษ์ สืบสานประเพณีของคนไทยที่ทำกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยคำพูดที่ว่า "หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน" 



ให้รู้ถึงที่มาของคำนี้ว่า คนไทยในอดีต มีวิถีการทำเกษตร การปลูกข้าวแบบไหน และกว่าจะได้ข้าวมานั้นมีวิถีการอย่างไร เรียนรู้ตั้งแต่เริ่มต้นว่า กว่าจะเป็นต้นข้าวเริ่มมาจากอะไร และคัดเลือกเมล็ดข้าวอย่างไร ก่อนจะนำไปปลูกเพื่อให้ต้นอ่อนและนำไปปลูกให้ได้เมล็ดข้าวและยังได้รู้ถึงคำกล่าวที่ว่าไว้ในน้ำมีปลาในนามีข้าวอีกด้วย



โดยทางโครงการได้จัดเตรียมแปลงนากว่า 10 ไร่พร้อมกับมีปราชญ์ชาวนาคอยถ่ายทอดประสบการณ์ให้เด็กๆได้เรียนรู้ นอกจากขั้นตอนการปลูกข้าว​ เด็กๆยังได้สนุกสนานกับวิถีชีวิตของชาวนาหลังฤดูกาลเพาะปลูก​ทั้งการเลี้ยงปลา​ จับปลา​ สร้างความสนุกสนานในการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้กับเด็กๆได้เป็นอย่างดี

สำหรับข้าวที่ปลูกเป็นข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตอง​1​ซึ่งจะใช้เวลาอีกประมาณ 3 เดือนจึงจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตซึ่งเด็กๆกลุ่มนี้จะกลับมาอีกครั้งเพื่อช่วยเกี่ยวข้าวขณะที่ข้าวทั้งหมดจะถูกนำ มอบให้กับกลุ่มคนด้อยโอกาสตามสถานที่ต่างๆ

ไม่มีความคิดเห็น